เวลา 18.00 น. วันที่ 23 มีนาคม 2564 สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปยังลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ในพิธีบวงสรวงและรำสดุดีท้าวสุรนารี ประจำปี 2564 ในการนี้ ทรงวางพานบายศรีถวายสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี แล้วพระราชทานผ้าสไบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเชิญขึ้นห่มอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี พร้อมพระราชทานผ้าสไบแก่นายอำเภอทั้ง 32 อำเภอ เพื่อนำไปเปลี่ยนให้อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีประจำอำเภอ โดยอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ณ บริเวณหน้าประตูชุมพล ชาวจังหวัดนครราชสีมาพร้อมใจกันสร้างขึ้น แล้วเสร็จเมื่อปี 2477 เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจ และรำลึกถึงคุณงามความดีของท้าวสุรนารี
ในการนี้ ทอดพระเนตรรำบวงสรวงท้าวสุรนารี โดยสตรีชาวจังหวัดนครราชสีมา ประกอบด้วย ภริยาข้าราชการระดับจังหวัด อำเภอ ส่วนราชการ, กลุ่มแม่บ้าน, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน และเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิ_ด-19 จึงจัดให้มีการรำบวงสรวง 7 วัน ระหว่างวันที่ 23-29 มีนาคม 2564 เพื่อเฉลี่ยจำนวนผู้แสดงกว่า 4,400 คน ให้เหลือวันละประมาณ 800 คน ใช้กระบวนท่ารำในรูปแบบนาฏศิลป์ไทยมาตรฐาน และศิลปะพื้นบ้าน แบ่งเป็น 4 ช่วง ประกอบด้วย กระบวนท่ารำออกด้วยเพลงมอญพิมาย มีจังหวะสนุกสนานเร้าใจ, การรำตีบทเพื่อเทิดพระเกียรติ พระบรมเดชานุภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ด้วยเพลงลมพัดชายเขา, การรำตีบทเพลงทำนองสรภัญญะ เพื่อสดุดีวีรกรรมท้าวสุรนารี และท่ารำประกอบกับท่วงทำนองเพลงพื้นบ้าน แสดงถึงการเฉลิมฉลองอย่างสนุกสนาน ถือเป็นมงคลสูงสุดแก่ผู้รำ
งานฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมอันกล้าหาญของท้าวสุรนารี หรือ ย่าโม ที่รวบรวมคนไทยกอบกู้เมืองนครราชสีมาจากกองทัพเวียงจันทน์จนได้รับชัยชนะเมื่อปี 2369 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสถาปนาขึ้นเป็นท้าวสุรนารี
#ทรงพระเจริญ #AssavarakChannel