เวลา 14.30 น. วันที่ 25 ตุลาคม 2563 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ โปรดให้ หม่อมหลวงสราลี กิติยากร เป็นผู้แทนพระองค์ไปยังอุโบสถวัดถ้ำสิงขร อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในการบำเพ็ญพระกุศลถวายผ้าพระกฐิน ประจำปี 2563 ซึ่งพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันจัดขึ้นเพื่อสืบสานพุทธประเพณี โอกาสนี้ ผู้แทนพระองค์รับผ้าไตรจากเจ้าพนักงานศุภรัต แล้ววางไว้เหนือพานแว่นฟ้า จุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระประธานอุโบสถ หยิบผ้าสำหรับห่มพระประธานมอบให้เจ้าพนักงานภูษามาลา เจ้าหน้าที่กรมการศาสนากล่าวรายงานจำนวนพระสงฆ์ แล้วผู้แทนพระองค์หยิบผ้าไตรพาดระหว่างแขน แล้วประนมมือว่า "นะโม ตัสสะฯ" จบ 3 หน แล้วกล่าวคำถวายผ้าพระกฐิน
วัดถ้ำสิงขรเป็นวัดเก่าแก่ สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ภายในวัดสำรวจพบเครื่องมือเครื่องใช้ยุคหินกลาง ยุคหินใหม่ และยุคโลหะ และมีถ้ำขนาดใหญ่ ด้านหน้าถ้ำมีเจดีย์รูปทรงที่ได้รับอิทธิพลศิลปะสมัยศรีวิชัย ภายในถ้ำประดิษฐานพระพุทธบาทจำลอง คูหากลางถ้ำประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางป่าเลไลยก์ ส่วนด้านหลังตามแนวผนังมีพระพุทธรูปเรียงรายเป็นจำนวนมาก วัดถ้ำสิงขรจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติเมื่อปี 2480
สำหรับที่วัดโปรดสัตว์ อำเภอปางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โปรดให้ พลอากาศเอก อนุพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เป็นผู้แทนพระองค์ ไปในการถวายผ้าพระกฐินประจำปีของราชสกุลสนิทวงศ์ ซึ่งปีนี้ ราชสกุลสนิทวงศ์ ร่วมกับเครือญาติ และพุทธศาสนิกชน เป็นเจ้าภาพถวายผ้าพระกฐิน เพื่อนำปัจจัยสมทบการบูรณปฏิสังขรณ์ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ และเมรุ ที่ชำรุดทรุดโทรม
วัดโปรดสัตว์ เป็นวัดเก่าแก่ โดยเป็นวัดประจำราชสกุลสนิทวงศ์ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี 2245 ได้รับการทำนุบำรุงโดยพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ต้นราชสกุลสนิทวงศ์ มีประวัติว่า เมื่อครั้งพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท ยกทัพไปตีเมืองเชียงตุง ต้องนำทัพข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา จึงทรงเลือกทำเล ณ วัดแห่งนี้ เพราะแม่น้ำมีความแคบ มีต้นไม้ใหญ่ทั้ง 2 ฝั่ง สามารถเคลื่อนย้ายกำลังพลข้ามแม่น้ำได้สะดวก และทรงปวารณาว่า หากทำการศึกสำเร็จ จะกลับมาทำนุบำรุงวัดแห่งนี้สืบไป โดยปี 2474 พลเรือโท พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสนิทพงศ์พัฒนเดช รองเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ ทรงสร้างอุโบสถใหม่ โดยคงรูปแบบตามเดิม ซึ่งทายาทสายสกุลสนิทวงศ์ ได้บูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะวัดโปรดสัตว์มาโดยตลอด ปัจจุบันมีพระสมุห์อำนาจ จินตกวิ เป็นเจ้าอาวาส มีพระสงฆ์ รวม 8 รูป
ส่วนที่วัดเชิงเลน อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โปรดให้ หม่อมราชวงศ์สมลาภ กิติยากร เป็นผู้แทนพระองค์ ไปในการถวายผ้าพระกฐิน ประจำปี 2563 ซึ่งบริษัท สมุนไพรปัญจศรี จำกัด ร่วมกับพุทธศาสนิกชนจัดขึ้น เพื่อนำปัจจัยไปสมทบทุนก่อสร้างอุโบสถ และวิหาร รวมทั้งสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามทางพระพุทธศาสนา
วัดเชิงเลน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง พร้อมกับการเกิดชุมชนบ้านปากเกร็ดน้อย และด่านขนอมบ้านปากเกร็ดน้อย เนื่องจากที่ตั้งวัดเป็นที่ลุ่มชายน้ำ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ลำน้ำโค้งหักศอกตามแนวโค้งของแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยกระแสน้ำไหลไม่รุนแรงจึงมีโคลนตมทับถมอยู่ตลอดเวลาจนเป็นชายเลน ชาวบ้านจึงเรียกว่า "วัดเชิงเลน" แต่ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้างที่ชัดเจน ต่อมาในปี 2476 วัดร่วมกับหน่วยราชการจัดตั้งโรงเรียนวัดเชิงเลน โดยใช้สถานที่ภายในวัด และยังเปิดส
